วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

สถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ(จังหวัดแม่ฮ่องสอน)

สถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ


จังหวัดแม่ฮ่องสอน






1. วัดพระธาตุดอยกองมู  ตั้งอยู่บนดอยกองมูทางทิศตะวันตกของตัวเมืองแม่ฮ่องสอน เดิมชื่อ "วัดปลายดอย" เป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่สำคัญ ประกอบไปด้วยพระธาตุเจดีย์ทรงเครื่องแบบมอญ 2 องค์ และวิหารพระศิลปะไทใหญ่ เจดีย์องค์พี่สร้างเมื่อ พ.ศ. 2403 โดยจองต่องสู่ พ่อค้าชาวไต ภายในบรรจุพระธาตุของพระมหาโมคคัลลานะเถระ ซึ่งอัญเชิญมาจากพม่า ส่วนองค์น้องสร้างโดยพญาสิงหนาทราชา เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนท่านแรก ฐานเจดีย์ประดิษฐานพระพุทธรูปประจำวันเกิดปางต่าง ๆ เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนมาช้านาน นอกจากกราบขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลแล้ว ยังสามารถชมวิวตัวเมืองแม่ฮ่องสอนในมุมสูงที่สุด นับว่าเป็นภาพที่สวยงดงามมากเลยทีเดียว






2. วัดก้ำก่อ  ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับวัดพระนอน เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองแม่ฮ่องสอน เดิมตั้งอยู่บริเวณเชิงพระธาตุดอยกองมูทางทิศใต้ ต่อมาได้ย้ายมาตั้งทางทิศตะวันออก เพื่อให้ใกล้แหล่งชุมชนและสะดวกสบายในการไปมาหาสู่มากกว่าเดิม มีสถาปัตยกรรมไทใหญ่ ที่สร้างโดยฝีมือของช่างชาวไทใหญ่ที่เข้ามาอาศัยและศรัทธาในวัดนี้ นับเป็นศูนย์รวมใจชาวแม่ฮ่องสอนมานานกว่า 123 ปี โดดเด่นด้วยปากทางเข้าที่ถูกขนาบข้างด้วยสิงห์ขาว 2 ตัว ที่เรียกว่า "ส่างหว่าง" หรือซุ้มประตูทอดยาวไปยังศาลาการเปรียญ ชายหลังคาถูกประดับประดาด้วยสังกะสีฉลุลาย ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ อีกทั้งยังเป็นที่เก็บรักษาตำราประวัติศาสตร์ที่เขียนด้วยภาษาไต (ไทใหญ่) ไว้อีกด้วย







 3. วัดจองคำ-วัดจองกลาง   ตั้งอยู่บริเวณหนองจองคำ ถือเป็นพุทธสถานแห่งแรกของเมืองแม่ฮ่องสอน โดดเด่นด้วยหลังคาวัดรูปทรงปราสาท 9 ชั้น กราบขอพรหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ที่สุดในแม่ฮ่องสอน ตลอดจนขอพรองค์พระศรีศากยมุนีจำลอง นอกจากนี้ยังสามารถเข้าชมภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถหลังคาทรงเจดีย์ 5 ยอด พร้อมสักการะพระเจดีย์ทรงเครื่องศิลปะมอญที่มียอดฉัตรประดับงานปูนปั้นฉาบสีทองอร่ามตา เมื่อครั้นเวลาเงาตกกระทบกับน้ำหนองจองคำมองแล้วสวยงดงามมาก ซึ่งไม่ควรพลาดที่จะยกกล้องถ่ายรูปคู่ใจมาเก็บภาพอันสวยงามนี้ไว้





4. อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ   ถ้ำปลาตั้งอยู่บริเวณเชิงเขามีลักษณะเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่กว้างประมาณ 2 เมตร ลึก 1.50 เมตร ภายในแอ่งน้ำมีน้ำไหลออกจากถ้ำใต้ภูเขาอยู่ตลอดเวลา และที่สำคัญมีปลาตัวโต ๆ สีเทาอมฟ้าที่ต่างแหวกว่ายไปมารอคอยขนมปังนับพันตัว เรียกความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้ไม่น้อย ปลาชนิดนี้มีชื่อว่า "ปลามุง" หรือ "ปลาคัง" เป็นปลาที่มีเกล็ดขนาดใหญ่ ในวงศ์เดียวกับปลาคาร์พ และถึงแม้จะมีอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่มีใครกล้าทำอันตราย เนื่องจากมีความเชื่อว่าเป็นปลาเจ้า หากใครนำไปรับประทานแล้วจะต้องมีอันเป็นไป ส่วนใครที่สนใจจะมาสัมผัสกับความสดชื่นและชุ่มฉ่ำของสายน้ำก็เลี้ยวรถต่อมายัง "น้ำตกผาเสื่อ" ที่ตั้งอยู่ในเขตตำบลหมอกจำแป่ น้ำตกแห่งนี้ไหลลงมาจากน้ำตกแม่สะงาในพม่า เป็นน้ำตกขนาดกลางสูงประมาณ 10 เมตร กว้าง 15 เมตร ในฤดูฝนสายน้ำตกจะปกคลุมเต็มหน้าผาหินกว้าง ซึ่งมีลักษณะคล้ายเสื่อปูลาด มีน้ำตลอดปี โดยช่วงที่เหมาะสมในการไปท่องเที่ยว คือ เดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน





5. ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่เหาะ  เป็นทุ่งดอกบัวตองสีเหลืองอร่ามที่อยู่ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 ตรงหลักกิโลเมตรที่ 84 เขตตำบลแม่เหาะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา อีกทั้งยังเป็นเส้นทางหลวงสายท่องเที่ยว เพื่อมุ่งสู่เมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอนอีกด้วย เมื่อผ่านมาบริเวณนี้คุณจะตระการตาไปกับดอกบัวตองสีเหลืองสดที่บานสะพรั่งรายล้อมข้างทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร จนอดใจไม่ไหวที่ต้องจอดแวะเก็บภาพประทับใจ แต่แม้จะดูสวยงามเพียงใดทุ่งดอกบัวตองแห่งนี้ก็มักจะถูกมองเป็นแค่ทางผ่านเท่านั้น เนื่องด้วยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมุ่งหน้าเข้าไปในตัวเมืองเสียมากกว่า อย่างไรก็ตามดอยแม่เหาะแห่งนี้ยังมีที่เที่ยวอีกมากมายที่น่าสนใจ อาทิ "น้ำตกแม่สวรรค์น้อย" ที่ยามเย็นจะมีจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากอยู่ที่ดอยหว่ากลึโจ๊ะ แถมในช่วงเช้ายังเป็นดินแดนแห่งทะเลหมอกที่สวยน่าชมอีกแห่งหนึ่งด้วย นอกจากนี้ยังมีบ้านพักโฮมสเตย์ สถานที่กางเต็นท์พักแรม รวมไปถึงร้านอาหาร และร้านกาแฟอีกด้วย หากมีโอกาสมาแม่ฮ่องสอนก็ขอฝากดอยแม่เหาะนี้ไว้ในใจอีกสักที่ รับรองว่าสวยไม่แพ้ที่อื่น ๆ ในแม่ฮ่องสอนแน่นอน





6. อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์  ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ บริเวณท้องที่อำเภอขุนยวมและอำเภอเมือง เป็นสถานที่ที่มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่สวยงาม สภาพพื้นที่เป็นป่าเขาเรียงรายสลับซับซ้อน มีภูเขาหินและหน้าผาน้อยใหญ่สูงชันในลักษณะที่แตกต่างกันและคล้ายกันหลายแห่ง นับเป็นสุดยอดน้ำตกที่สวยงามและมีความสูงมากที่สุดในจังหวัดแม่ฮ่องสอน อันเป็นต้นกำเนิดของต้นน้ำลำธารที่อุดมสมบูรณ์ โดยลักษณะของน้ำตกที่นี่จะมีขนาดใหญ่ เป็นน้ำตกชั้นเดียวที่ไหลจากหน้าผาลงสู่หุบเขาด้านล่าง ซึ่งมีความสูงประมาณ 100 เมตร มีน้ำไหลตลอดปี






7. อุทยานแห่งชาติแม่เงา   มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 257,650 ไร่ หรือ 412.24 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ อำเภอแม่สะเรียง อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน และอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก สิ่งที่น่าสนใจของที่นี่คือ "กิจกรรมล่องแพไม้ไผ่" ซึ่งนับว่าเป็นกิจกรรมที่มีมาแล้วหลายปีบนแม่น้ำสายนี้ ปัจจุบันการล่องแพไม้ไผ่แบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ จากที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่เงาลงไปถึงสบเงาใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ช่วงที่ 2 คือ จากบ้านแม่หลุยถึงที่ทำการอุทยานใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง ส่วนช่วงสุดท้ายน่าสนใจเป็นพิเศษ คือ จากบ้านนาดอยถึงที่ทำการอุทยานฯ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 วัน 1 คืน ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความงดงามที่หลากหลายและได้พบกับความสนุกจากการผ่านเกาะแก่งที่กลางลำน้ำมากขึ้น จัดว่าเป็นการล่องแพไม้ไผ่ที่ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากที่สุด โดยแม่น้ำเงาแห่งนี้เป็นสายน้ำที่อยู่ในการดูแลของอุทยานแห่งชาติแม่เงา เป็นแม่น้ำสายใหญ่ซึ่งมีความใสสะอาดมาก โดยเฉพาะในหน้าแล้งจะสามารถมองเห็นเงาที่สะท้อนอยู่ในน้ำได้ จึงเป็นที่มาของชื่อแม่น้ำ "เงา" นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีสภาพป่าดงดิบริมฝั่งน้ำอันบริสุทธิ์งดงามที่หาพบได้ยากจากแม่น้ำอื่นอีกด้วย






8. สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าถ้ำน้ำลอด (ถ้ำลอด)   เป็นถ้ำที่มีชื่อเสียงและถูกเลื่องลือในความสวยงาม ถือเป็นผลงานอันวิจิตรสวยงามที่ส่งตรงมาจากธรรมชาติโดยแท้ ภายในถ้ำมีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร เกิดขึ้นจากลำห้วยน้ำลาง ซึ่งเป็นลำน้ำสายหลักของอำเภอปางมะผ้า โดยไหลลอดผ่านภูเขาทะลุออกสู่อีกด้านหนึ่งและได้มีการกัดเซาะรอยแยกของหินปูนมานานหลายล้านปี จนกลายเป็นหินงอกหินย้อยอันสวยงามแปลกตาให้เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน โดยภายในถูกแบ่งเป็นถ้ำย่อยอีก 3 ถ้ำ คือ "ถ้ำเสาหินหลวง" นั่งแพเข้าไปประมาณ 300 เมตร จะได้พบกับม่านหินย้อยหรือหินกากเพชร สะท้อนแสงระยิบระยับอยู่ภายใน ตลอดจนจะได้พบกับหินลักษณะเป็นแท่งคล้ายเสาตั้งตระหง่านอยู่ ณ ใจกลางถ้ำ เปรียบเสมือนเป็นเสาที่ค้ำเพดานถ้ำแห่งนี้เอาไว้






9. อุทยานแก้วโกมล (ถ้ำแก้วโกมล)  ตั้งอยู่บริเวณเขาดอยถ้ำ เดิมชื่อ "ถ้ำผลึกแคลไซต์แม่ลาน้อย" ภายในเต็มไปด้วยผลึกแร่แคลไซต์ที่ผนังและเพดานถ้ำ ผลึกมีรูปร่างลักษณะแตกต่างกัน อาทิ ผลึกคล้ายเกล็ดน้ำแข็ง ขนาดเล็ก ละเอียด สีขาว ซึ่งเป็นลักษณะเด่นที่สุดของถ้ำ โดยเฉพาะเวลาที่สะท้อนแสงไฟสวยงามจับใจมาก ๆ ผลึกคล้ายเกล็ดน้ำตาลหรือผลึกแร่ควอตซ์ ผลึกที่จับตัวกันคล้ายปะการัง ผ้าม่าน โคมไฟเพดาน ผลึกงอกและย้อยเป็นเสาและแท่ง




10. วัดศรีดอนชัย  เป็นวัดแห่งแรกในอำเภอปาย ที่มีอายุราว ๆ 600 กว่าปี มีสถาปัตยกรรมเป็นแบบล้านนา ภายในมีจิตกรรมฝาผนังที่สวยงาม อีกทั้งยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์หรือพระสิงห์ปาย พระพุทธรูปเก่าแก่เนื้อทองสำริดปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสน สิงห์ยุคแรกมีอายุประมาณ 700-800 ปี ซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้านอย่างมาก โดยใน พ.ศ. 2124 สมเด็จพระนเรศวรมหาราชซึ่งทรงนำทหารมาฝึกที่เมืองปาย และได้เสด็จมาทรงสักการะพระสิงห์องค์นี้ด้วย อีกทั้งในช่วงวันสงกรานต์ทางวัดจะอัญเชิญพระสิงห์ปายออกมาให้ชาวบ้านได้สรงน้ำและสักการะเป็นประจำทุกปีอีกด้วย



      ขอขอบคุณเว็บ travel.kapook.com

วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

สินค้าที่น่าสนใจในศูนย์คนรักไอที

1. เข็มกลัด
2. พวงกุญแจ
3. เสื้อ









วันเสาร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2560

สถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ(จังหวัดน่าน)


สถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ

จังหวัดน่าน



1.อุทยานแห่งชาติขุนสถาน ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 บ้านขุนสถาน ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ประมาณ 1,424 เมตร ระหว่างทางไปอุทยานฯมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม รวมถึงทะเลหมอกอลังการให้ได้ชม โดยเฉพาะหากมาท่องเที่ยว ในฤดูฝนจะสามารถพบเห็นทะเลหมอกได้มากกว่าฤดูอื่น ที่นี่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ตอนเย็นจะได้สัมผัสท้องฟ้าที่สวยงามมาก ตอนกลางคืนสามารถมองเห็นไฟส่องสว่างของ หมู่บ้านในตำบลสันทะ ตัวอำเภอนาน้อย ตัวอำเภอเวียงสา ตัวอำเภอเมืองน่าน โดยเฉพาะ ไฟส่องสว่างของหมู่บ้าน ในตำบลสันทะมีลักษณะเหมือนดาวที่อยู่บนดินกลมกลืนกับดาวที่อยู่บนท้องฟ้า




2.วัดภูมินทร์  ตั้งอยู่ที่บ้านภูมินทร์ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน ใกล้กับพิพิธภัณฑสถาน-แห่งชาติน่าน เดิมชื่อ "วัดพรหมมินทร์" เป็นวัดที่แปลก กว่าวัดอื่น ๆ คือ โบสถ์และวิหารสร้างเป็นอาคารหลังเดียวกันประตูไม้ทั้งสี่ทิศแกะสลักลวดลาย โดยช่างฝีมือล้านนาสวยงามมาก นอกจากนี้ฝาผนัง แสดงถึงชีวิตและวัฒนธรรมของยุคสมัยที่ ผ่านมาตาม พงศาวดารของเมืองน่าน วัดภูมินทร์สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2139 โดยพระเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ เจ้าผู้ครอง เมืองน่านได้สร้างขึ้นหลังจากที่ครองนครน่านได้ 6 ปี มีปรากฏในคัมภีร์เมือง เหนือว่าเดิมชื่อ "วัดพรหมมินทร์" ซึ่งเป็นชื่อของเจ้าเจตบุตรพรหม มินทร์ผู้สร้างวัด แต่ตอนหลังชื่อวัดได้เพี้ยนไปจากเดิมเป็นวัดภูมินทร์ ดังกล่าว







3.ดอยเสมอดาว อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีน่าน มีพื้นที่ครอบคลุม 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนาหมื่น อำเภอนาน้อย และอำเภอเวียงสาน้อย ดอยเสมอดาว เป็นภูเขาที่มีลานให้นักท่องเที่ยวพักผ่อน กางเต็น และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกและชมพระอาทิตย์ขึ้น ที่วิวดีอีกที่หนึ่งเลยที่เดี๋ยว ในช่วงหน้าหนาวและฝนยังสามารถเห็นทะแลหมอกในตอนเข้า สำหรับผู้ที่มากางเต็นนอนกลางคืนยังมีโอกาสที่จะพบหิ้งห้อยอีกด้วย






4.น้ำตกศิลาเพชรเป็นน้ำตกไหลลงมาจากหน้าผาหลายชั้น ลดหลั่นกันไปเหมาะกับการเล่นน้ำ เป็นสถานที่ที่สวย เหมาะสำหรับพักผ่อนย่อนใจแห่งหนึ่งสำหรับคอรบครัวโดยน้ำตกเกิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยมีน้ำจากลำห้วยหลายสายไหลมารวมกัน เป็นลำน้ำผ่านโขดหิน และตกลดหลั่นลงมาเป็นชั้นๆอย่างสวยงามนอกจากนี้แล้วน้ำตกศิลาเพชรยังเป็นแหล่งสามารถสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนในการนำสินค้าชุมชนออกจำหน่ายตามรายทางอีกด้วย






5.อุทยานแห่งชาตินันทบุรี มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอท่าวังผา อำเภอเมือง อำเภอบ้านหลวง จังหวัดน่าน ตามทางหลวงหมายเลข 1080-1148-1082 เนื้อที่ประมาณ 548 ,125 ไร่ มีสภาพป่า ทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ มีความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร มีจุดเด่นทางธรรมชาติ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งของอุทยานฯ คือ จุดชมทิวทัศน์ บริเวณที่ทำการฯ ตั้งอยู่บนสันเขาดอยติ้ว-ดอยวาว ชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่ยอดผาจิ-ผาช้าง ซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการฯ 1 กม.




6.เสาดินนาน้อย (ฮ่อมจ๊อม) อยู่ที่ตำบลเชียงของ ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของอุทยานแห่งชาติศรีน่าน มีระยะ ทางห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 24 กิโลเมตร เป็นเสาดินที่มีลักษณะแปลกตาคล้าย “แพะเมืองผี” ที่จังหวัดแพร่ เสาดินนาน้อย เกิดจากการที่ดินตะกอน ทับถม ถูกเลื่อนตัวสูงขึ้นจากผิวดิน ผ่านเวลานานหลาย ล้านปี ถูกน้ำและฝน กัดเซาะ จนทำให้เกิดรูปร่าง ประหลาด แปลกตาอย่างที่เห็น สันนิษฐานว่าเสาดินนาน้อยมี อายุประมาณ 30,000-10,000 ปีและเคยเป็นก้นทะเลมาก่อน นอกจากนี้ยังค้นพบกำไลหินและขวานโบราณที่นี่ (ปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน) แสดงให้เห็นว่าบริเวณนี้อาจเคยเป็น แหล่งอาศัยของ มนุษย์ยุคหินเก่า





7.น้ำตกต้นตอง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา เป็นน้ำตกหินปูน 3 ชั้น มีความสูงประมาณ 60 เมตร บนโตรกผามีพืชชุ่มน้ำ เช่น ตะไคร่น้ำ เฟิร์นเกาะเขียวขจี ในหน้าฝนน้ำตกจะสีขุ่นแดง ตัวน้ำตกอยู่ริมทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1256 ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 3 กิโลเมตร โดยเดินทางจากที่ทำการอุทยานถึงแยกบ้านเต๋ย เข้าไปอีกประมาณ 800 เมตร และเดินเท้าจากถนนเข้าไปถึงตัวน้ำตกประมาณ 500 เมตร ซึ่งเป็นทางเดินลาดชัน







8.น้ำตกวังเปียน หรือ น้ำตกห้วยโก๋น เป็นน้ำตกที่อยู่ในเขตหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ที่ 1 (ห้วยโก๋น)  บริเวณบ้านห้วยทรายขาว ตำบลห้วยโก๋น อำเภอ เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ สายน้ำตกจะไหลลดหลั่นเกิดเป็นหินปูนที่สวยงามดูคล้ายบันได แต่ละชั้นจะสวยงามแตกต่างกันไป บริเวณธารน้ำตกเต็มไปด้วยป่าหวาย ป่ากล้วย และพรรณไม้นานาพรรณ การชมน้ำตกสามารถเดินจากบริเวณล่างสุด ฝ่ากระแสน้ำที่ตกลงมาไปตามชั้นของเส้นทางน้ำตก จนถึงชั้นบนสุด จะพบถ้ำบนยอดเขาขนาดใหญ่ ซึ่งมีน้ำไหลออกมาจากปากถ้ำดังกล่าว แล้วไหลลงสู่ชั้นต่าง ๆ ของน้ำตก จนถึงชั้นล่างสุดลงสู่แม่น้ำน่าน





9.น้ำตกดอยหมอก อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาตินันทบุรี ในพื้นที่หมู่บ้านนาม่วง ตำบลเรือง อำเภอเมือง จังหวัดน่านเป็นน้ำตกขนาดเล็ก ความสูง 3 ชั้น โดยแต่ละชั้นจะมีชื่อเรียกคือ ชั้นที่ 1 ตาดหมอก ชั้นที่ 2 ตาดกวาง และชั้นที่ 3 ตาดจ้อง น้ำตกดอยหมอกมีน้ำไหลตลอดทั้งปี มีความสวยงามในผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนและเล่นน้ำ โดยฤดูฝนจะมีปริมาณน้ำมากและสวยงามกว่าฤดูอื่น ตัวน้ำตกอยู่ห่างจากตัวเมืองน่านประมาณ 20 กิโลเมตร





10.น้ำตกห้วยหาด หรือ น้ำตกบ้านยอด อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน ในพื้นที่หมู่บ้านยอด ตำบลยอด อำเภอสองแคว จังหวัดน่าน มีต้นกำเนิดมาจากลำห้วยหาดที่มีต้นกำเนิดจากดอยจี๋เป็นน้ำตกขนาดกลาง ความสูงประมาณ 3 ชั้นไหลผ่านผาหินสูงประมาณ 30 เมตร กว้างประมาณ 15 เมตร มีน้ำไหลตลอดปี เบื้องล่างมีแอ่งน้ำกว้างสามารถเล่นน้ำได้ ตัวน้ำตกมีความสวยงาม อยู่ในโอบล้อมของหน้าผาสูง ธรรมชาติโดยรอบมีความชุ่มเย็นจากละอองน้ำตก โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่ดอกไม้ป่าผลิดอกจะมองเห็นสีแดง เหลือง ส้ม ตัดกับผืนป่าสีเขียวขจี





                        ขอขอบคุณเว็บ  www.paiduaykan.com


วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2559

สถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ (จังหวัดเชียงราย)


สถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ

จังหวัดเชียงราย





1. สิงห์ ปาร์ค (Singha Park) หรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่า ไร่บุญรอด ตั้งอยู่ริมถนนสายเด่นห้า-ดงมะดะ อำเภอเมือง ห่างจากเขตชุมชนเมืองเชียงราย ประมาณ 9 กิโลเมตร ในพื้นที่ประมาณ 8,000 ไร่ ครอบคลุม 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลดอยฮาง ตำบลรอบเวียง ตำบลป่าอ้อดอนชัย และตำบลแม่กรณ์ ความสูงของพื้นที่เฉลี่ย 450 เมตร เหนือจากระดับน้ำทะเล ในฤดูหนาวอากาศค่อนข้างเย็นสบาย






2. พระธาตุดอยตุง ตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 17.5 บนทางหลวงหมายเลข 1149 เป็นที่บรรจุพระรากขวัญเบื้องซ้าย (กระดูกไหปลาร้า) ของพระพุทธเจ้า นำมาจากมัธยมประเทศ นับเป็นครั้งแรกที่พระพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ได้มาประดิษฐานที่ล้านนาไทย เมื่อก่อสร้างพระสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุนี้ ได้ทำธงตะขาบ (ภาษาพื้นเมืองเรียกว่า ตุง) ใหญ่ยาวถึงพันวา ปักไว้บนยอดดอย ถ้าหากปลายธงปลิวไปไกลถึงเมืองไหน ก็จะกำหนดเป็นฐานพระสถูป เหตุนี้ดอยซึ่งเป็นที่ประดิษฐานปฐมเจดีย์แห่งล้านนาไทย จึงปรากฏนามว่า ดอยตุง




3. พระตำหนักดอยตุงและสวนแม่ฟ้าหลวง ตั้งอยู่ในเขตอำเภอแม่ฟ้าหลวง ห่างจากตัวเมืองเชียงรายประมาณ 60 กิโลเมตร พระตำหนักดอยตุงเคยเป็นที่ประทับแปรพระราชฐานเพื่อทรงงานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีรูปทรงผสมผสานระหว่างศิลปะล้านนากับชาเลย์ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีการแกะสลักไม้ตามกาแล เชิงชายและขอบหน้าต่างเป็นลวดลายต่าง ๆ โดยฝีมือช่างชาวเหนือ รอบ ๆ พระตำหนักมีสวนดอกไม้หลากพันธุ์ หลายสี ให้ความสวยงามสดชื่น โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะเห็นหมอกจาง ๆ บริเวณยอดเขารอบพระตำหนัก มีเจ้าหน้าที่นำชมเป็นรอบ ๆ ละ 20 นาที เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 07.00-17.00 น. ค่าเข้าชม 90 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทรศัพท์ 0 5376 7015-7 





4. วัดพระแก้ว ตั้งอยู่ที่ถนนไตรรัตน์ ใจกลางเมืองเชียงราย วัดนี้เองที่ได้ค้นพบ พระแก้วมรกต หรือพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ที่ประดิษฐานอยู่ ณ วัดศรีรัตนศาสดาราม(วัดพระแก้ว) กรุงเทพฯ ในปัจจุบัน ตามประวัติเล่าว่า เมื่อปี พ.ศ. 1897 ในสมัย พระเจ้า สามฝั่งแกน เป็นเจ้าเมือง ครองเชียงใหม่นั้น ฟ้าได้ผ่า เจดีย์ร้างองค์หนึ่ง และได้พบ พระพุทธรูปลงรักปิดทอง อยู่ภายในเจดีย์ ต่อมารักกะเทาะออก จึงได้พบว่า เป็นพระพุทธรูป สีเขียวที่สร้างด้วยหยก ซึ่งก็คือ พระแก้วมรกตนั่นเอง ปัจจุบัน วัดพระแก้ว เชียงราย เป็นที่ประดิษฐาน พระหยก ซึ่งสร้างขึ้นใหม่ ในวาระที่ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีพระชนมายุครบ 90 พรรษา





5.ดอยผาตั้ง ตั้งอยู่ใกล้ทางหลวงหมายเลข 1093 กิโลเมตรที่ 89 เป็นจุดชมวิวไทย-ลาว มีความสูง   1,635 เมตร และเที่ยวชมทะเลหมอกได้ตลอดปี ในเดือนธันวาคมถึงมกราคม มีดอกซากุระบานและเดือนกุมภาพันธ์ มีดอกเสี้ยวบานสะพรั่งงดงาม เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวจีนฮ่อ ม้ง และเย้า โดยเฉพาะจีนฮ่อนั้น อดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของกองพล 93 ซึ่งอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ดอยผาตั้งนี้ ปัจจุบันประกอบอาชีพทางการเกษตร ปลูกพืชเมืองหนาว เช่น บ๊วย ท้อ สาลี่ แอปเปิ้ล และชา






6. ภูชี้ฟ้า อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,628 เมตรโดยมีหน้าผาเป็นแนวยาวยื่นไปทางฝั่งประเทศลาว เป็นยอดเขาสูงที่สุดในเทือก เขาดอยผาหม่นด้านที่ติดสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ยอดภูชี้ฟ้ามีลักษณะเป็นผาที่มีแหลมยื่นขึ้นไปบนฟ้าจึงเรียกว่า ภูชี้ฟ้า โดยมองเห็นภูเขาชี้ขึ้นไปบนฟ้าที่มีลักษณะเป็นภูเขาสูงทำมุม 45 องศา ซึ่งด้านบนมีพื้นที่ราบให้เดินเที่ยวชมประมาณ 1 กิโลเมตร ด้านหน้าเป็นหน้าผาสูงมองเห็นหมู่บ้านเชียงตองในประเทศลาว มีจุดชมวิวยอดนิยมอยู่ 2 จุด คือบริเวณ ยอดภูและบริเวณ ลานก่อนถึงยอดซึ่งจะเห็นภูเขาชี้ได้อย่างชัดเจร ไฮไลต์สำคัญ ของการมาเที่ยวภูชี้ฟ้า คือ มาเฝ้ารอชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกสุด อลังการคลอภูขาที่สวยงาม ชมเอกลักษณ์ทางธรรมชาติ ที่ไม่มีใครเหมือนนั่นคือ ลักษณะภูเขาที่ชี้ไปบนฟ้า หากนักท่องเที่ยวเดินทาง มาในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม จะเป็นช่วงเวลา ที่ดอกเสี้ยวหรือ ชงโคป่าจะผลิดอกสีขาวบานสะพรั่งเต็มเชิงเขา หากมาเยือน ภูชี้ฟ้าในช่วงปีใหม่ยัง ได้ชม งานปีใหม่ที่ชาวม้งจะแต่งตัวม้งครบถ้วนทั้งหญิงและชาย จุดเด่นของงานคือ การโยนลูกช่วงหรือลูกหิน ระหว่างหนุ่ม - สาว




7.บ้านดำ หรือ พิพิธภัณฑ์บ้านดำ ตั้งอยู่ที่ ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย สร้างขึ้นโดย อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ ที่มีฝีมือทางด้าน จิตรกรรม ปฏิมากรรม ได้สร้างงานด้านศิลปะไว้มากมาย ทั้งทางด้านภาพเขียนและด้านปฏิมากรรมหลายชิ้น ลักษณะ ของ บ้านดำจะเป็นกลุ่มบ้าน ศิลปะแบบล้านนา ทุกหลังทาด้วยสีดำ ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า “บ้านดำ” และยังเป็นสีที่ อ. ถวัลย์โปรดปราน อีกด้วย ในบ้านแต่ละหลังจะประดับด้วยไม้แกะสลักที่มีลวดลายงดงาม นอกจากไม้แกะสลักแล้วยังประดับด้วยเขาสัตว์ เช่น เขาควาย เขากวาง และยังมีกระดูกสัตว์ เช่น กระดูกช้าง เป็นต้น ถึงแม้อ.ถวัลย์ จะถึงแก่อนิจกรรมไปแล้ว แต่บ้านดำ ก็ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามา สัมผัสความงดงามของที่แตกต่างไม่เหมือนใครของที่นี่




8.สามเหลี่ยมทองคำ เป็นบริเวณที่แม่น้ำโขง และแม่น้ำรวกมาบรรจบกัน หรือที่เรียกว่า สบรวก เป็นพรมแดนกั้นระหว่างประเทศไทย ลาว พม่า บริเวณนี้เคยมีการค้าฝิ่น โดยแลกเปลี่ยนกับทองคำ จึงมีการเรียกขานว่า สามเหลี่ยมทองคำ กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมมากที่สุดของที่นี่ คือการนั่งเรือชมทิวทัศน์โดยรอบชมธรรมชาติสามประเทศ โดยเฉพาะถ้าเป็นช่วงเช้า บริเวณนี้จะมีความงดงามมาก มองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นทางด้านฝั่งพม่า และลาว นอกจากการเรือท่องเที่ยวแล้ว ยังมีเรือบริการรับส่งไปเที่ยวบ่อนฝั่งพม่า (ไม่แนะนำเพราะผิดศีล) แต่จะต้องผ่านด่านตรวจของไทยก่อนไปลงเรือ เพราะท่าเรือคนละท่ากับเรือท่องเที่ยว





9.วัดถ้ำผาจม นั้นตั้งอยู่ในหุบเขาและอยู่ในแนวนอนเทือกเขาเขาลูกนี้เป็นรูปผู้หญิงนอนหงายสยายผมไปทางประเทศพม่า ฉะนั้น วัดถ้ำผาจมจึงอยู่ปลายผม เมื่อมองไปทางทิศตะวันออกจะเห็นพระธาตุดอยเวา ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณหนึ่งกิโลเมตร และจะเห็นเทือกเขาเป็นคุ้งมังกรสวยงามมาก สถานที่ ที่วัดถ้ำผาจมตั้งอยู่นั้น เป็นช่วงปากของมังกร มีธรรมชาติรอบบริเวณวัดสวยงาม สงบ ข้าพเจ้าผู้เรียบเรียง ได้เคยไปประเทศอินเดียเมื่อขึ้นไปบนภูเขาคิชณกูฎ มองลงมายังกรุงราชคฤห์เก่า จะเห็นเป็นแงซึ่งมีภูเขาห้าลูกล้อมรอบ วายงามมาก





10.น้ำตกวังแก้ว เป็นแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งในอุทยานแห่งชาติดอยหลวงซึ่งได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่16 เมษายน พ.ศ. 2533 ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของจังหวัดพะเยา จังหวัดเชียงรายและจังหวัดลำปาง รวมเนื้อที่ประมาณ 731,250 ไร่ สภาพภูมิประเทศเป็นเขาสูงทอดตัวแนวเหนือ-ใต้ มีดอยหลวงเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด ประกอบด้วยป่าเบญจพรรณ ป่าดิบชื้นและป่าเต็งรังปะปนกัน มีสัตว์ป่าและน กหลายชนิด ที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่ที่บริเวณน้ำตกวังแก้ว



วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

สถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ (จังหวัดเชียงใหม่)




สถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ


จังหวัดเชียงใหม่



1. พระบรมธาตุดอยสุเทพ เป็นปูชนียสถานที่สำคัญยิ่งของเมืองเชียงใหม่ ประดิษฐานอยู่บนดอยสุเทพ สูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 เมตร ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของตัวเมือง ห่างจากตัวเมืองเก่าประมาณ 10 กิโลเมตร สามารถมองเห็นจากตัวเมืองได้ชัดเจน ที่เที่ยวเชียงใหม่ ภายในยังได้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุองค์ใหญ่ ที่พญากือนา กษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งอาณาจักรล้านนา ราชวงศ์มังราย ได้ทรงเก็บไว้สักการบูชาส่วนพระองค์ถึง 13 ปี มาบรรจุไว้ที่นี่ให้ประชาชนได้เดินทางมาสักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล



2. วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ ที่เที่ยวเชียงใหม่ แห่งนี้ เป็นเจดีย์ใหญ่ที่สูงที่สุดของอาณาจักรล้านนา สร้างขึ้นในรัชกาลพระเจ้าแสนเมืองมากษัตริย์องค์ที่ 7 แห่งราชวงศ์มังราย (พ.ศ.1913-1954) ต่อมาพระยาติโลกราชโปรดให้ช่างขยายเจดีย์ให้สูงและกว้างกว่าเดิม แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2024 และอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐาน แต่เดิมวัดเจดีย์หลวงมีชื่อว่า “โชติการามวิหาร” หมายถึง พระอารามที่มีความรุ่งเรืองสว่างไสว ทั้งยังเป็นสถานที่บรรจุพระเกศาธาตุ และพระธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นอกจากนี้ “โชติการาม” ยังมีความหมายอีกนัยหนึ่ง คือ เมื่อถึงเวลาที่มีการจุดประทีบโคมไฟประดับบูชาองค์พระธาตุเจดีย์หลวง จะปรากฏแสงสีสว่างไสว มองเห็นองค์พระเจดีย์คล้ายเชิงเทียนที่มีเปลวไฟลุกโชติช่วง ดูแล้วมีความงดงามยิ่งนัก สามารถมองเห็นได้แต่ไกล



3. วัดพระสิงห์วรวิหาร อยู่ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง พญาผายูกษัตริย์องค์ที่ 5 ในราชวงศ์เม็งรายโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดนี้ขึ้น ในปีพ.ศ. 1888 พร้อมทั้งสร้างพระเจดีย์สูง 24 ศอกองค์หนึ่ง เพื่อใช้เป็นที่บรรจุอัฐิของพญาคำฟู อีกทั้งยังนับได้ว่าเป็นวัดที่สำคัญวัดหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นโบราณสถานสำหรับชาติ ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระสิงห์ (พระพุทธสิหิงค์) ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อยู่คู่เมืองเชียงใหม่และเมืองล้านนามาเป็นเวลานาน พระพุทธรูปเป็นศิลปะเชียงแสนรู้จักกันในชื่อ "เชียงแสนสิงห์หนึ่ง"



4. สวนสัตว์เชียงใหม่ เป็นสวนสัตว์ขนาดใหญ่ใครที่มาเที่ยวเชียงใหม่ต้องไม่พลาด สวนสัตว์แห่งนี้ได้รับการจัดสภาพอย่างดี บริเวณกว้างขวาง มีบรรยากาศร่มรื่น และมีสัตว์อยู่มากกว่า 2,000 ชนิด ทั้งที่มีอยู่ในเมืองไทยและนำเข้ามาจากต่างประเทศ สวนสัตว์เชียงใหม่ตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นดอยสุเทพ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนท่ามกลางกลิ่นอายของขุนเขา ป่าไม้ และธรรมชาติ และที่พลาดชมไปไม่ได้เลย คือ หมีแพนด้า ซึ่งเป็นทูตสันตวไมตรีจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ผู้คนต่างให้ความสนใจเดินทางมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก




5. ถนนคนเดินท่าแพ เป็นสถาน ที่เที่ยวเชียงใหม่ ชอปปิ้งสุดฮิตของเมืองเชียงใหม่ เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ภายในคูเมืองบริเวณถนนราชดำเนิน นับว่าเป็นถนนคนเดินที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ด้วยมนต์เสน่ห์ยามค่ำคืนทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต้องไม่พลาดที่จะเดินทางมาที่นี่ มีสินค้าที่นำออกมาวางขายอย่างหลากหลายมากมาย ทั้งสินค้าพื้นเมือง สินค้า OTOP สินค้าหัตกรรมพื้นบ้าน งานแฮนด์เมด งานศิลปะ สินค้าไอเดียเก๋ที่ราคาเป็นกันเอง




6. สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อส่งเสริมการปลูกพืชทดแทนฝิ่น ถ่ายทอดวิชาความรู้ทางด้านการเกษตรแผนใหม่อันจะเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรให้สูงขึ้น บริเวณโดยรอบพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้านที่มีราษฎรเป็นชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยงและเผ่าม้ง เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้ชาวบ้านได้มีอาชีพสร้างรายได้ ลดการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้และการทำไร่เลื่อนลอย นับเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าไปเยี่ยมชมได้






7. ดอยอินทนนท์ เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดของแดนสยาม 2,565 เมตร จุดสิ้นสุดของทางหลวงหมายเลข 1009 มีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดปี เป็นที่ตั้งสถานีเรดาร์ของกองทัพอากาศไทยและเป็นที่ประดิษฐานสถูปเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าเมืองเชียงใหม่องค์สุดท้าย ดอยอินทนนท์ นับว่าเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย พาดผ่านจากประเทศเนปาล ภูฐาน พม่า และมาสิ้นสุดที่นี่ บรรยากาศโดยรอบอุดมไปด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นป่าดงดิบ ป่าสน ป่าเบญจพรรณ อีกทั้งยังมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี เชื่อได้ว่าใครที่ได้มาที่นี่จะต้องติดใจจนไม่อยากกลับ





8. พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ เป็นพระตำหนักประทับแปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2505 ตั้งอยู่บนดอยบวกห้า สามารถเดินชมโดยรอบตำหนักและบริเวณซึ่งมีแปลงกุหลาบ สวนเฟิร์น และไม้นานาพรรณได้ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ มีลักษณะเป็นแผนผังแบบเรือนไทยภาคกลางที่เรียกว่า “เรือนหมู่” มีรูปแบบสถาปัตยกรรมเป็นไทยประเพณีประยุกต์ ก่ออิฐถือปูน ยกพื้นสูงหลังคาทรงไทย มีความงดงามเป็นอย่างมาก เหมาะที่จะเดินทางมาพักผ่อน พร้อมกับเก็บภาพประทับใจสวยๆ คู่กับพระตำหนักและบรรยากาศโดยรอบ



9. บ้านม้งดอยปุย เป็นอีกสถาน ที่เที่ยวเชียงใหม่ หนึ่งที่เราประทับใจ เป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง (แม้ว) ดอยปุย บริเวณหมู่บ้านจำหน่ายของที่ระลึกจำนวนมากซึ่งมีทั้งที่ผลิตภายในหมู่บ้าน และนำจากที่อื่นมาวางจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยว การได้เดินทางมาที่นี่นับได้ว่าเป็นการเรียนรู้วิถีชีวิตชาวม้งอย่างแท้จริง นอกจากของที่ระลึกที่จะมีจำหน่ายให้เราได้เลือกซื้อกลับไปเป็นของที่ระลึกแล้ว เรายังจะได้แต่งกายแบบชาวม้ง โดยสามารถถ่ายรูปภายในหมู่บ้านที่มีมุมสวยๆ อยู่มากมาย ใครยังไม่เคยมา ต้องลองมาให้ได้สักครั้ง





10. ถนนนิมมานเหมินทร์ ตั้งอยู่ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เป็นถนนสั้นๆ ความยาวไม่ถึงกิโลฯ แต่ถือว่าเป็นทำเลทองของการทำธุรกิจ ที่เที่ยวเชียงใหม่ แห่งนี้เป็นแหล่งรวบรวมความทันสมัย หากจะเปรียบแล้วถนนนิมมานเหมินทร์ก็คงคล้ายกับถนนสุขุมวิทของกรุงเทพฯ นั่นเอง ถือได้ว่าเป็นถนนที่ชิคที่สุดของเชียงใหม่ โดยตลอดเส้นทางมีร้านรวงมากมายให้เราได้เดินเข้าไปสัมผัสความงดงามจากไอเดียการตกแต่งร้านที่ไม่ซ้ำกัน มีทั้งสินค้าและบริการ รวมถึงร้านอาหาร เครื่องดื่มในบรรยากาศดีๆ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ยังคงเอกลักษณ์ของผู้คนและศิลปะล้านนาเอาไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม


 ขอขอบคุณเว็บ travel.sanook.com