วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2559

สถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ (จังหวัดเชียงราย)


สถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ

จังหวัดเชียงราย





1. สิงห์ ปาร์ค (Singha Park) หรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่า ไร่บุญรอด ตั้งอยู่ริมถนนสายเด่นห้า-ดงมะดะ อำเภอเมือง ห่างจากเขตชุมชนเมืองเชียงราย ประมาณ 9 กิโลเมตร ในพื้นที่ประมาณ 8,000 ไร่ ครอบคลุม 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลดอยฮาง ตำบลรอบเวียง ตำบลป่าอ้อดอนชัย และตำบลแม่กรณ์ ความสูงของพื้นที่เฉลี่ย 450 เมตร เหนือจากระดับน้ำทะเล ในฤดูหนาวอากาศค่อนข้างเย็นสบาย






2. พระธาตุดอยตุง ตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 17.5 บนทางหลวงหมายเลข 1149 เป็นที่บรรจุพระรากขวัญเบื้องซ้าย (กระดูกไหปลาร้า) ของพระพุทธเจ้า นำมาจากมัธยมประเทศ นับเป็นครั้งแรกที่พระพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ได้มาประดิษฐานที่ล้านนาไทย เมื่อก่อสร้างพระสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุนี้ ได้ทำธงตะขาบ (ภาษาพื้นเมืองเรียกว่า ตุง) ใหญ่ยาวถึงพันวา ปักไว้บนยอดดอย ถ้าหากปลายธงปลิวไปไกลถึงเมืองไหน ก็จะกำหนดเป็นฐานพระสถูป เหตุนี้ดอยซึ่งเป็นที่ประดิษฐานปฐมเจดีย์แห่งล้านนาไทย จึงปรากฏนามว่า ดอยตุง




3. พระตำหนักดอยตุงและสวนแม่ฟ้าหลวง ตั้งอยู่ในเขตอำเภอแม่ฟ้าหลวง ห่างจากตัวเมืองเชียงรายประมาณ 60 กิโลเมตร พระตำหนักดอยตุงเคยเป็นที่ประทับแปรพระราชฐานเพื่อทรงงานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีรูปทรงผสมผสานระหว่างศิลปะล้านนากับชาเลย์ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีการแกะสลักไม้ตามกาแล เชิงชายและขอบหน้าต่างเป็นลวดลายต่าง ๆ โดยฝีมือช่างชาวเหนือ รอบ ๆ พระตำหนักมีสวนดอกไม้หลากพันธุ์ หลายสี ให้ความสวยงามสดชื่น โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะเห็นหมอกจาง ๆ บริเวณยอดเขารอบพระตำหนัก มีเจ้าหน้าที่นำชมเป็นรอบ ๆ ละ 20 นาที เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 07.00-17.00 น. ค่าเข้าชม 90 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทรศัพท์ 0 5376 7015-7 





4. วัดพระแก้ว ตั้งอยู่ที่ถนนไตรรัตน์ ใจกลางเมืองเชียงราย วัดนี้เองที่ได้ค้นพบ พระแก้วมรกต หรือพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ที่ประดิษฐานอยู่ ณ วัดศรีรัตนศาสดาราม(วัดพระแก้ว) กรุงเทพฯ ในปัจจุบัน ตามประวัติเล่าว่า เมื่อปี พ.ศ. 1897 ในสมัย พระเจ้า สามฝั่งแกน เป็นเจ้าเมือง ครองเชียงใหม่นั้น ฟ้าได้ผ่า เจดีย์ร้างองค์หนึ่ง และได้พบ พระพุทธรูปลงรักปิดทอง อยู่ภายในเจดีย์ ต่อมารักกะเทาะออก จึงได้พบว่า เป็นพระพุทธรูป สีเขียวที่สร้างด้วยหยก ซึ่งก็คือ พระแก้วมรกตนั่นเอง ปัจจุบัน วัดพระแก้ว เชียงราย เป็นที่ประดิษฐาน พระหยก ซึ่งสร้างขึ้นใหม่ ในวาระที่ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีพระชนมายุครบ 90 พรรษา





5.ดอยผาตั้ง ตั้งอยู่ใกล้ทางหลวงหมายเลข 1093 กิโลเมตรที่ 89 เป็นจุดชมวิวไทย-ลาว มีความสูง   1,635 เมตร และเที่ยวชมทะเลหมอกได้ตลอดปี ในเดือนธันวาคมถึงมกราคม มีดอกซากุระบานและเดือนกุมภาพันธ์ มีดอกเสี้ยวบานสะพรั่งงดงาม เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวจีนฮ่อ ม้ง และเย้า โดยเฉพาะจีนฮ่อนั้น อดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของกองพล 93 ซึ่งอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ดอยผาตั้งนี้ ปัจจุบันประกอบอาชีพทางการเกษตร ปลูกพืชเมืองหนาว เช่น บ๊วย ท้อ สาลี่ แอปเปิ้ล และชา






6. ภูชี้ฟ้า อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,628 เมตรโดยมีหน้าผาเป็นแนวยาวยื่นไปทางฝั่งประเทศลาว เป็นยอดเขาสูงที่สุดในเทือก เขาดอยผาหม่นด้านที่ติดสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ยอดภูชี้ฟ้ามีลักษณะเป็นผาที่มีแหลมยื่นขึ้นไปบนฟ้าจึงเรียกว่า ภูชี้ฟ้า โดยมองเห็นภูเขาชี้ขึ้นไปบนฟ้าที่มีลักษณะเป็นภูเขาสูงทำมุม 45 องศา ซึ่งด้านบนมีพื้นที่ราบให้เดินเที่ยวชมประมาณ 1 กิโลเมตร ด้านหน้าเป็นหน้าผาสูงมองเห็นหมู่บ้านเชียงตองในประเทศลาว มีจุดชมวิวยอดนิยมอยู่ 2 จุด คือบริเวณ ยอดภูและบริเวณ ลานก่อนถึงยอดซึ่งจะเห็นภูเขาชี้ได้อย่างชัดเจร ไฮไลต์สำคัญ ของการมาเที่ยวภูชี้ฟ้า คือ มาเฝ้ารอชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกสุด อลังการคลอภูขาที่สวยงาม ชมเอกลักษณ์ทางธรรมชาติ ที่ไม่มีใครเหมือนนั่นคือ ลักษณะภูเขาที่ชี้ไปบนฟ้า หากนักท่องเที่ยวเดินทาง มาในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม จะเป็นช่วงเวลา ที่ดอกเสี้ยวหรือ ชงโคป่าจะผลิดอกสีขาวบานสะพรั่งเต็มเชิงเขา หากมาเยือน ภูชี้ฟ้าในช่วงปีใหม่ยัง ได้ชม งานปีใหม่ที่ชาวม้งจะแต่งตัวม้งครบถ้วนทั้งหญิงและชาย จุดเด่นของงานคือ การโยนลูกช่วงหรือลูกหิน ระหว่างหนุ่ม - สาว




7.บ้านดำ หรือ พิพิธภัณฑ์บ้านดำ ตั้งอยู่ที่ ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย สร้างขึ้นโดย อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ ที่มีฝีมือทางด้าน จิตรกรรม ปฏิมากรรม ได้สร้างงานด้านศิลปะไว้มากมาย ทั้งทางด้านภาพเขียนและด้านปฏิมากรรมหลายชิ้น ลักษณะ ของ บ้านดำจะเป็นกลุ่มบ้าน ศิลปะแบบล้านนา ทุกหลังทาด้วยสีดำ ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า “บ้านดำ” และยังเป็นสีที่ อ. ถวัลย์โปรดปราน อีกด้วย ในบ้านแต่ละหลังจะประดับด้วยไม้แกะสลักที่มีลวดลายงดงาม นอกจากไม้แกะสลักแล้วยังประดับด้วยเขาสัตว์ เช่น เขาควาย เขากวาง และยังมีกระดูกสัตว์ เช่น กระดูกช้าง เป็นต้น ถึงแม้อ.ถวัลย์ จะถึงแก่อนิจกรรมไปแล้ว แต่บ้านดำ ก็ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามา สัมผัสความงดงามของที่แตกต่างไม่เหมือนใครของที่นี่




8.สามเหลี่ยมทองคำ เป็นบริเวณที่แม่น้ำโขง และแม่น้ำรวกมาบรรจบกัน หรือที่เรียกว่า สบรวก เป็นพรมแดนกั้นระหว่างประเทศไทย ลาว พม่า บริเวณนี้เคยมีการค้าฝิ่น โดยแลกเปลี่ยนกับทองคำ จึงมีการเรียกขานว่า สามเหลี่ยมทองคำ กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมมากที่สุดของที่นี่ คือการนั่งเรือชมทิวทัศน์โดยรอบชมธรรมชาติสามประเทศ โดยเฉพาะถ้าเป็นช่วงเช้า บริเวณนี้จะมีความงดงามมาก มองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นทางด้านฝั่งพม่า และลาว นอกจากการเรือท่องเที่ยวแล้ว ยังมีเรือบริการรับส่งไปเที่ยวบ่อนฝั่งพม่า (ไม่แนะนำเพราะผิดศีล) แต่จะต้องผ่านด่านตรวจของไทยก่อนไปลงเรือ เพราะท่าเรือคนละท่ากับเรือท่องเที่ยว





9.วัดถ้ำผาจม นั้นตั้งอยู่ในหุบเขาและอยู่ในแนวนอนเทือกเขาเขาลูกนี้เป็นรูปผู้หญิงนอนหงายสยายผมไปทางประเทศพม่า ฉะนั้น วัดถ้ำผาจมจึงอยู่ปลายผม เมื่อมองไปทางทิศตะวันออกจะเห็นพระธาตุดอยเวา ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณหนึ่งกิโลเมตร และจะเห็นเทือกเขาเป็นคุ้งมังกรสวยงามมาก สถานที่ ที่วัดถ้ำผาจมตั้งอยู่นั้น เป็นช่วงปากของมังกร มีธรรมชาติรอบบริเวณวัดสวยงาม สงบ ข้าพเจ้าผู้เรียบเรียง ได้เคยไปประเทศอินเดียเมื่อขึ้นไปบนภูเขาคิชณกูฎ มองลงมายังกรุงราชคฤห์เก่า จะเห็นเป็นแงซึ่งมีภูเขาห้าลูกล้อมรอบ วายงามมาก





10.น้ำตกวังแก้ว เป็นแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งในอุทยานแห่งชาติดอยหลวงซึ่งได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่16 เมษายน พ.ศ. 2533 ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของจังหวัดพะเยา จังหวัดเชียงรายและจังหวัดลำปาง รวมเนื้อที่ประมาณ 731,250 ไร่ สภาพภูมิประเทศเป็นเขาสูงทอดตัวแนวเหนือ-ใต้ มีดอยหลวงเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด ประกอบด้วยป่าเบญจพรรณ ป่าดิบชื้นและป่าเต็งรังปะปนกัน มีสัตว์ป่าและน กหลายชนิด ที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่ที่บริเวณน้ำตกวังแก้ว



วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

สถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ (จังหวัดเชียงใหม่)




สถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ


จังหวัดเชียงใหม่



1. พระบรมธาตุดอยสุเทพ เป็นปูชนียสถานที่สำคัญยิ่งของเมืองเชียงใหม่ ประดิษฐานอยู่บนดอยสุเทพ สูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 เมตร ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของตัวเมือง ห่างจากตัวเมืองเก่าประมาณ 10 กิโลเมตร สามารถมองเห็นจากตัวเมืองได้ชัดเจน ที่เที่ยวเชียงใหม่ ภายในยังได้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุองค์ใหญ่ ที่พญากือนา กษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งอาณาจักรล้านนา ราชวงศ์มังราย ได้ทรงเก็บไว้สักการบูชาส่วนพระองค์ถึง 13 ปี มาบรรจุไว้ที่นี่ให้ประชาชนได้เดินทางมาสักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล



2. วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ ที่เที่ยวเชียงใหม่ แห่งนี้ เป็นเจดีย์ใหญ่ที่สูงที่สุดของอาณาจักรล้านนา สร้างขึ้นในรัชกาลพระเจ้าแสนเมืองมากษัตริย์องค์ที่ 7 แห่งราชวงศ์มังราย (พ.ศ.1913-1954) ต่อมาพระยาติโลกราชโปรดให้ช่างขยายเจดีย์ให้สูงและกว้างกว่าเดิม แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2024 และอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐาน แต่เดิมวัดเจดีย์หลวงมีชื่อว่า “โชติการามวิหาร” หมายถึง พระอารามที่มีความรุ่งเรืองสว่างไสว ทั้งยังเป็นสถานที่บรรจุพระเกศาธาตุ และพระธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นอกจากนี้ “โชติการาม” ยังมีความหมายอีกนัยหนึ่ง คือ เมื่อถึงเวลาที่มีการจุดประทีบโคมไฟประดับบูชาองค์พระธาตุเจดีย์หลวง จะปรากฏแสงสีสว่างไสว มองเห็นองค์พระเจดีย์คล้ายเชิงเทียนที่มีเปลวไฟลุกโชติช่วง ดูแล้วมีความงดงามยิ่งนัก สามารถมองเห็นได้แต่ไกล



3. วัดพระสิงห์วรวิหาร อยู่ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง พญาผายูกษัตริย์องค์ที่ 5 ในราชวงศ์เม็งรายโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดนี้ขึ้น ในปีพ.ศ. 1888 พร้อมทั้งสร้างพระเจดีย์สูง 24 ศอกองค์หนึ่ง เพื่อใช้เป็นที่บรรจุอัฐิของพญาคำฟู อีกทั้งยังนับได้ว่าเป็นวัดที่สำคัญวัดหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นโบราณสถานสำหรับชาติ ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระสิงห์ (พระพุทธสิหิงค์) ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อยู่คู่เมืองเชียงใหม่และเมืองล้านนามาเป็นเวลานาน พระพุทธรูปเป็นศิลปะเชียงแสนรู้จักกันในชื่อ "เชียงแสนสิงห์หนึ่ง"



4. สวนสัตว์เชียงใหม่ เป็นสวนสัตว์ขนาดใหญ่ใครที่มาเที่ยวเชียงใหม่ต้องไม่พลาด สวนสัตว์แห่งนี้ได้รับการจัดสภาพอย่างดี บริเวณกว้างขวาง มีบรรยากาศร่มรื่น และมีสัตว์อยู่มากกว่า 2,000 ชนิด ทั้งที่มีอยู่ในเมืองไทยและนำเข้ามาจากต่างประเทศ สวนสัตว์เชียงใหม่ตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นดอยสุเทพ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนท่ามกลางกลิ่นอายของขุนเขา ป่าไม้ และธรรมชาติ และที่พลาดชมไปไม่ได้เลย คือ หมีแพนด้า ซึ่งเป็นทูตสันตวไมตรีจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ผู้คนต่างให้ความสนใจเดินทางมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก




5. ถนนคนเดินท่าแพ เป็นสถาน ที่เที่ยวเชียงใหม่ ชอปปิ้งสุดฮิตของเมืองเชียงใหม่ เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ภายในคูเมืองบริเวณถนนราชดำเนิน นับว่าเป็นถนนคนเดินที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ด้วยมนต์เสน่ห์ยามค่ำคืนทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต้องไม่พลาดที่จะเดินทางมาที่นี่ มีสินค้าที่นำออกมาวางขายอย่างหลากหลายมากมาย ทั้งสินค้าพื้นเมือง สินค้า OTOP สินค้าหัตกรรมพื้นบ้าน งานแฮนด์เมด งานศิลปะ สินค้าไอเดียเก๋ที่ราคาเป็นกันเอง




6. สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อส่งเสริมการปลูกพืชทดแทนฝิ่น ถ่ายทอดวิชาความรู้ทางด้านการเกษตรแผนใหม่อันจะเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรให้สูงขึ้น บริเวณโดยรอบพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้านที่มีราษฎรเป็นชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยงและเผ่าม้ง เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้ชาวบ้านได้มีอาชีพสร้างรายได้ ลดการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้และการทำไร่เลื่อนลอย นับเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าไปเยี่ยมชมได้






7. ดอยอินทนนท์ เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดของแดนสยาม 2,565 เมตร จุดสิ้นสุดของทางหลวงหมายเลข 1009 มีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดปี เป็นที่ตั้งสถานีเรดาร์ของกองทัพอากาศไทยและเป็นที่ประดิษฐานสถูปเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าเมืองเชียงใหม่องค์สุดท้าย ดอยอินทนนท์ นับว่าเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย พาดผ่านจากประเทศเนปาล ภูฐาน พม่า และมาสิ้นสุดที่นี่ บรรยากาศโดยรอบอุดมไปด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นป่าดงดิบ ป่าสน ป่าเบญจพรรณ อีกทั้งยังมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี เชื่อได้ว่าใครที่ได้มาที่นี่จะต้องติดใจจนไม่อยากกลับ





8. พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ เป็นพระตำหนักประทับแปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2505 ตั้งอยู่บนดอยบวกห้า สามารถเดินชมโดยรอบตำหนักและบริเวณซึ่งมีแปลงกุหลาบ สวนเฟิร์น และไม้นานาพรรณได้ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ มีลักษณะเป็นแผนผังแบบเรือนไทยภาคกลางที่เรียกว่า “เรือนหมู่” มีรูปแบบสถาปัตยกรรมเป็นไทยประเพณีประยุกต์ ก่ออิฐถือปูน ยกพื้นสูงหลังคาทรงไทย มีความงดงามเป็นอย่างมาก เหมาะที่จะเดินทางมาพักผ่อน พร้อมกับเก็บภาพประทับใจสวยๆ คู่กับพระตำหนักและบรรยากาศโดยรอบ



9. บ้านม้งดอยปุย เป็นอีกสถาน ที่เที่ยวเชียงใหม่ หนึ่งที่เราประทับใจ เป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง (แม้ว) ดอยปุย บริเวณหมู่บ้านจำหน่ายของที่ระลึกจำนวนมากซึ่งมีทั้งที่ผลิตภายในหมู่บ้าน และนำจากที่อื่นมาวางจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยว การได้เดินทางมาที่นี่นับได้ว่าเป็นการเรียนรู้วิถีชีวิตชาวม้งอย่างแท้จริง นอกจากของที่ระลึกที่จะมีจำหน่ายให้เราได้เลือกซื้อกลับไปเป็นของที่ระลึกแล้ว เรายังจะได้แต่งกายแบบชาวม้ง โดยสามารถถ่ายรูปภายในหมู่บ้านที่มีมุมสวยๆ อยู่มากมาย ใครยังไม่เคยมา ต้องลองมาให้ได้สักครั้ง





10. ถนนนิมมานเหมินทร์ ตั้งอยู่ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เป็นถนนสั้นๆ ความยาวไม่ถึงกิโลฯ แต่ถือว่าเป็นทำเลทองของการทำธุรกิจ ที่เที่ยวเชียงใหม่ แห่งนี้เป็นแหล่งรวบรวมความทันสมัย หากจะเปรียบแล้วถนนนิมมานเหมินทร์ก็คงคล้ายกับถนนสุขุมวิทของกรุงเทพฯ นั่นเอง ถือได้ว่าเป็นถนนที่ชิคที่สุดของเชียงใหม่ โดยตลอดเส้นทางมีร้านรวงมากมายให้เราได้เดินเข้าไปสัมผัสความงดงามจากไอเดียการตกแต่งร้านที่ไม่ซ้ำกัน มีทั้งสินค้าและบริการ รวมถึงร้านอาหาร เครื่องดื่มในบรรยากาศดีๆ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ยังคงเอกลักษณ์ของผู้คนและศิลปะล้านนาเอาไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม


 ขอขอบคุณเว็บ travel.sanook.com




วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

5 สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต
 



           1. หาดกะตะ-หาดกะรน
อยู่ห่างจากตัวเมือง 17 กิโลเมตร ไปตามเส้นทางถนนเจ้าฟ้า ถึงห้าแยกอ่าวฉลองเลี้ยวขวา เข้าถนนปฏัก หาดกะตะ แบ่งออกเป็น 2 หาด คือ หาดกะตะใหญ่ และ หาดกะตะน้อย เป็นหาดที่เหมาะสำหรับการเล่นน้ำ และใช้เป็นที่ฝึกดำน้ำเนื่องจากมีแนวปะการังติดต่อกันไปจนถึงเกาะปู ซึ่งอยู่ด้านหน้าหาดกะตะ ปัจจุบันหาดกะตะเป็นหาดหนึ่งที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น สถานที่พัก บริษัทนำเที่ยว ร้านค้า และแหล่งบันเทิงต่าง ๆ ไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยว เช่นเดียวกับ หาดกะรน ที่อยู่ถัดจากหาดกะตะไปทางด้านเหนือ ไปตามถนนซึ่งแยกจากหาดกะตะ 3 กิโลเมตร เป็นหาดทรายขาว ละเอียด ทอดตัวในแนวยาว ไปจนสุดหาด และเป็นหาดหนึ่งที่มีสถานที่พัก บริษัทนำเที่ยว ร้านค้าจำนวนมาก สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง


 


2. หาดกมลา
ถือเป็นชายหาดที่มีความสวยงามอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ตั้งอยู่เหนือหาดป่าตอง ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ  26 กิโลเมตร ความยาวของหาดทรายยาวประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นหาดที่สงบเงียบ มีสถานที่พักบริการนักท่องเที่ยวมากมาย ปัจจุบันได้มีการพัฒนาจนกลายเป็นหาดที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ด้วยการสร้างแหล่งช้อปปิ้ง, สปา, มินิบาร์ รวมทั้งการแสดงโชว์แสง สี เสียง อีกทั้งยังเป็นสถานที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมงมุสลิม จึงเป็นสถานที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชอบเดินทางมาพักผ่อนเป็นครอบครัวและเพื่อนกลุ่มใหญ่ นอกจากนี้ ในบริเวณหาดยังมีอนุสรณ์สถานสึนามิ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อสะท้อนถึงภัยพิบัติคลื่นยักษ์ ชื่อว่า จิตจักรวาล อีกด้วย
 เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.
ที่อยู่ : หาดกมลา ตำบลกมลา อำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต



 

          3. ภูเก็ตแฟนตาซี
เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นอาณาจักรแห่งความบันเทิงในระดับโลกเลยก็ว่าได้ สำหรับ ภูเก็ตแฟนตาซี ศูนย์การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยผสมผสานเทคนิคพิเศษในระดับโลก ที่ได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ถึงความอลังการของโชว์ ซึ่งนอกจากโชว์แล้วยังมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกและหัตถกรรมไทยต่าง ๆ ห้องเกม โดยแต่ละอาคารได้รับการออกแบบเป็นอาคารทรงไทยประยุกต์ลักษณะต่าง ๆ มีการดึงเอาจุดเด่นของแต่ละภาคมาใช้ และตกแต่งโดยใช้แสงสีต่าง ๆ ดูตระการตา
ราคา : อัตราค่าเข้าชมการแสดงรวมอาหารเย็น ผู้ใหญ่ 1,600 บาท เด็ก 1,200 บาท ชมการแสดงอย่างเดียว ผู้ใหญ่ 1,100 บาท เด็ก 800 บาท
เปิดบริการทุกวัน : เวลา 17.30-23.30 น.(การแสดงเริ่มเวลา 21.00 น.)
ที่อยู่ : 99 หมู่ 3 ตำบลกมลา อำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต
โทรศัพท์ : 076-385-000-19 หรือฝ่ายรับจองบัตรโทรศัพท์ 076-385-111
 เว็บไซต์ : www.phuket-fantasea.com




 
4. เกาะมะพร้าว
เกาะมะพร้าว อยู่ห่างจากภูเก็ตทางทิศตะวันออกประมาณ 2 กิโลเมตร แต่บรรยากาศของทั้งสองเกาะนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยภูเก็ตนั้นขึ้นชื่อในเรื่องความเจริญ ครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และมีบรรยากาศคึกคัก แต่สำหรับเกาะมะพร้าวกลับเป็นเกาะที่มีแต่ธรรมชาติและบรรยากาศอันเงียบสงบ (บริเวณท่าเรือแหลมหินของเกาะภูเก็ต มีบริการเรือหางยาวส่งนักท่องเที่ยวสู่เกาะมะพร้าว)
เกาะมะพร้าว เป็นหนึ่งในเกาะบริวารของจังหวัดภูเก็ต หากเรายืนอยู่ที่ท่าเรือแหลมหิน มองออกไปเบื้องหน้าก็จะพบวิวเกาะมะพร้าวตั้งอยู่แค่เอื้อม โดยมีพื้นที่อยู่ประมาณ 2,620 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นสวนมะพร้าว จึงเป็นที่มาของชื่อเกาะมะพร้าว บนเกาะมีท่าเรืออยู่ 2 แห่ง ท่าเรือแรก คือ ท่าเรือหน้าหาด ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของเกาะเป็นท่าเรือคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวจากภูเก็ต ส่วนอีกแห่ง คือ ท่าเรือหน้าบ้าน ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ เป็นท่าเรือขนส่งสินค้าของชาวประมง
สำหรับชายหาดบนเกาะมะพร้าวมีที่เที่ยวชม 3 แห่ง ได้แก่ ชายหาดบริเวณท่าเรือหน้าหาด ชายหาดบริเวณท่าเรือหน้าบ้าน และชายหาดทางด้านทิศตะวันออกของเกาะ โดยชายหาดทั้งสองแห่งที่อยู่บริเวณท่าเรือ ส่วนใหญ่เป็นหาดเลนจึงไม่นิยมมากนัก นักท่องเที่ยวจะนิยมไปเล่นน้ำที่ชายหาดด้านทิศตะวันออกเสียมากกว่า ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเกาะมะพร้าวนอกจากจะสามารถเที่ยวชมและเล่นน้ำทะเลภายในเกาะแล้ว ยังมีเกาะบริเวณใกล้เคียงที่น่าสนใจอีกด้วย เช่น เกาะรังใหญ่ ที่ตั้งอยู่ใกล้เกาะมะพร้าว เกาะนี้นอกจากจะเด่นด้วยชายหาดขาวสะอาดน่าเล่นน้ำทะเลแล้ว ยังมีฟาร์มหอยมุกให้ชมด้วย
ช่วงเวลาการท่องเที่ยว : พฤศจิกายน-เมษายน
 




 5. หลาดปล่อยของ
 หลาดปล่อยของ คือ ตลาดนัดสุดแนวของชาวจังหวัดภูเก็ต โดยคำว่า หลาด หมายถึง ตลาด ที่เป็นเหมือนตัวกลางระหว่างผู้บริโภคและผู้ค้า ส่วนคำว่า ปล่อยของ คือ การปลดปล่อยความคิดแปลกใหม่ที่ออกมาจากตัวตนของตัวเอง ดังนั้น หลาดปล่อยของ หมายถึง แหล่งรวมสินค้าแปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร มีทั้งสินค้าไอเดีย งานแฮนด์เมด, งานศิลปะ, งานแฟชั่นทั้งแบบเก่าและใหม่, การแสดง, อาหารนานาชนิด รวมทั้งไลฟ์สไตล์อื่น ๆ นอกจากนี้ หลาดปล่อยของเป็นสถานที่พักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศกลางแจ้งสบาย ๆ ใน Limelight Avenue ใจกลางเมืองภูเก็ต ทั้งช้อปปิ้ง ดื่มกิน ฟังเพลง ชมการแสดงจากนักร้อง นักแสดงมืออาชีพและสมัครเล่น ที่มาช่วยกันสร้างสีสันสถานที่แห่งนี้ ให้เป็นตลาดทางเลือก Phuket Indy Market หนึ่งเดียวของจังหวัดภูเก็ต
ที่อยู่ : ลานเพลิน Lime Light ถนนดีบุกตัดใหม่ หลัง ททท. และลานมังกร ติดร้านอาหารเลมอนกราสและโซฟาผับ จังหวัดภูเก็ต
เวลาเปิด-ปิด : วันพฤหัสบดี-วันศุกร์ เวลา 16.00-22.30 น.
เบอร์โทรศัพท์ : 089-474-5253

เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก หลาด ปล่อยของ >


ขอบคุณ  travel.kapook.com

วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559


5 สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต

 







1. วัดไชยธาราม (วัดฉลอง)
วัดไชยธาราม หรือวัดฉลอง เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองชาวภูเก็ต ซึ่งชาวภูเก็ตให้ความเคารพนับถือเป็นเวลานับร้อยปี อีกทั้งนักท่องเที่ยวที่มาภูเก็ตจะต้องมาเคารพสักการะ หลวงพ่อแช่ม แห่งวัดฉลอง โดยหลวงพ่อแช่มเป็นผู้นำชาวภูเก็ตต่อสู้กับพวกจีน (อังยี้) ทำเหมืองที่ทำการขบถจะยึดเมืองภูเก็ตเมื่อปี พ.ศ.2415 นอกจากนี้ ท่านมีความเชี่ยวชาญในเรื่องการรักษาโรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการ ต่อกระดูก รักษาเส้น ฯลฯ ส่วนภายในวัดยังมีอุโบสถ์หลังเล็ก ภายในจะเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นของพระประธาน และมีรูปปั้นอีก 2 ตัวขนาบข้าง คือ ท้าวนนทรี เป็นรูปปั้นยักษ์ยืนอยู่ทางเบื้องซ้าย ส่วนทางด้านขวามีรูปปั้นตาแก่นั่งสูบบุหรี่ เรียกว่า ตาขี้เหล็ก เล่ากันว่าตอนที่สร้างโบสถ์เสร็จมีปูนเหลืออยู่จำนวนหนึ่ง ช่างนึกสนุกจึงนำปูนมาปั้นเป็นรูปตาแก่ และประชาชนนิยมบนตาขี้เหล็กด้วยหมากพลูและบุหรี่มาจนทุกวันนี้
      สำหรับการเดินทางไปที่วัด สามารถออกจากตัวเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข 4021 ผ่านสามแยกบริเวณสนามกีฬาสุระกุลเลี้ยวซ้ายไปทางห้าแยกฉลอง วัดฉลองจะอยู่ทางซ้ายมือก่อนถึงห้าแยกฉลองประมาณ 4 กิโลเมตร
-                    เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.
-                   ที่อยู่ : หมู่ 6 ตำบลฉลอง อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต




2.ตึกโบราณสถาปัตยกรรมแบบชิโน-โปรตุกีส





สถาปัตยกรรมในตัวเมืองภูเก็ตส่วนใหญ่มักเป็นตึกสมัยเก่า มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบชิโน-โปรตุกีส ที่สร้างขึ้นเกือบร้อยปีมาแล้ว เมื่อครั้งกิจการเหมืองแร่เริ่มเจริญใหม่ ๆ อาคารส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นโดยนักธุรกิจชาวจีน ที่มีความร่ำรวยจากการเข้ามาทำธุรกิจเหมืองแร่ดีบุกในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งปัจจุบันยังมีตึกที่ได้รับอิทธิพลทางด้านสถาปัตยกรรมแบบจีนมาผสมผสาน เรียกว่าสถาปัตยกรรมแบบ ชิโน-โปรตุกีส (Sino-Portuguese) เช่น อาคารปัจจุบันที่ทำการศาลากลางจังหวัด, ศาลจังหวัด, ธนาคารนครหลวงไทย เป็นต้น โดยลักษณะของตึกที่ว่าจะเป็นอาคารจะมีส่วนลึกมากกว่าส่วนกว้างและไม่สูงนัก ซึ่งนักท่องเที่ยวโดยส่วนใหญ่จะมาเดินชมตึก ชมทัศนียภาพของอาคาร รวมทั้งถ่ายภาพเก็บความงามเหล่านี้ไว้เสมอ
-                   เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 06.00-20.00 น.
-                   ที่อยู่ : ถนนถลาง ถนนดีบุก อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต







 
 3. แหลมพรหมเทพ
      ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตภายในจังหวัดภูเก็ต เพราะเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย โดยเป็นแหลมที่อยู่ตอนใต้สุดของเกาะภูเก็ต ชาวบ้านเรียกว่า แหลมเจ้า ซึ่งจากริมหน้าผามีแนวต้นตาลลาดลงสู่ปลายแหลมที่เป็นโขดหิน สามารถเดินไปจนถึงปลายแหลมได้ มองเห็นน้ำทะเลสีเขียวมรกต และสามารถเห็นเกาะแก้วอยู่ด้านหน้าแหลม ทางขวาจะเห็นแนวหาดทรายของหาดในหาน
      นอกจากนั้นยังมี ประภาคารกาญจนาภิเษก แหลมพรหมเทพ สร้างขึ้นในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี มีขนาดความกว้างที่ฐาน 9 เมตร สูง 50 ฟุต และแสงไฟจากโคมไฟจะมองเห็นไกลถึง 39 กิโลเมตร ภายในประภาคารมีการแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับการสร้างประภาคาร การรักษาเวลามาตรฐาน การคำนวณ และแสดงเวลาดวงอาทิตย์ขึ้นและตก อีกทั้งจากบนยอดของประภาคารยังเป็นจุดชมวิวได้ด้วย
-                   เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 06.00-19.00 น.
-                   โทรศัพท์ : 0 76211 036, 0 7621 2213 (ททท.สำนักงานภูเก็ต)


 











4. วัดพระทอง (พระผุด)
     วัดพระทอง หรือวัดพระผุด ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 21 กิโลเมตร วัดนี้มีพระพุทธรูปผุดขึ้นจากพื้นดินเพียงครึ่งองค์ เมื่อคราวศึกพระเจ้าปะดุงยกพลมาตีเมืองถลาง (พ.ศ. 2328) ทหารพม่าพยายามขุดพระผุดเพื่อนำกลับไปพม่า แต่ขุดลงไปคราวใดก็มีฝูงแตนไล่ต่อยจนต้องละความพยายาม ต่อมาชาวบ้านได้นำทองหุ้มพระพุทธรูปที่ผุดจากพื้นดินเพียงครึ่งองค์ดังปรากฏอยู่จนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังเป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑสถานวัดพระทอง เป็นที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุข้าวของเครื่องใช้ของชาวภูเก็ต เช่น จังซุ่ย เสื้อกันฝนชาวเหมืองแร่ดีบุก รองเท้าตีนตุกของสตรีเชื้อสายจีนที่ต้องมัดเท้าให้เล็กตามค่านิยมของสังคมสมัยนั้นอีกด้วย
-                   เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 07.00-17.00 น.
-                   ที่อยู่ : หมู่ 7 ตำบลเทพกระษัตรี อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต




5. หาดป่าตอง
หาดป่าตอง อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 15 กิโลเมตร ตามเส้นทางถนนวิชิตสงคราม หรือ ทางหลวงหมายเลข 4020 ไป 9 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 4029 ไปอีก 6 กิโลเมตร นับเป็นอ่าวที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เพราะเป็นอ่าวที่มีความโค้งมาก หาดทรายงดงามเป็นแนวยาว 9 กิโลเมตร น้ำทะเลใสสะอาด เหมาะแก่การเล่นน้ำ อีกทั้งบริเวณชายหาดยังมีกิจกรรมทางน้ำให้ได้เล่นกันมันส์ ๆ ไม่ว่าจะเป็น ขับเจ็ทสกี, สปีดโบ๊ท รวมทั้งกิจกรรมอื่น ๆ อย่างครบครัน และบริเวณหาดมีที่พัก บริษัทนำเที่ยว ศูนย์การค้า และแหล่งบันเทิงบริการนักท่องเที่ยวอย่างครบครัน
-                   เวลาเปิด-ปิด : เปิดทำการทุกวัน เวลา 06.00-20.00 น.
f                                  

                         ขอขอบคุณเว็บไซต์  http://travel.kapook.com