วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

สถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ (จังหวัดเชียงใหม่)




สถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ


จังหวัดเชียงใหม่



1. พระบรมธาตุดอยสุเทพ เป็นปูชนียสถานที่สำคัญยิ่งของเมืองเชียงใหม่ ประดิษฐานอยู่บนดอยสุเทพ สูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 เมตร ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของตัวเมือง ห่างจากตัวเมืองเก่าประมาณ 10 กิโลเมตร สามารถมองเห็นจากตัวเมืองได้ชัดเจน ที่เที่ยวเชียงใหม่ ภายในยังได้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุองค์ใหญ่ ที่พญากือนา กษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งอาณาจักรล้านนา ราชวงศ์มังราย ได้ทรงเก็บไว้สักการบูชาส่วนพระองค์ถึง 13 ปี มาบรรจุไว้ที่นี่ให้ประชาชนได้เดินทางมาสักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล



2. วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ ที่เที่ยวเชียงใหม่ แห่งนี้ เป็นเจดีย์ใหญ่ที่สูงที่สุดของอาณาจักรล้านนา สร้างขึ้นในรัชกาลพระเจ้าแสนเมืองมากษัตริย์องค์ที่ 7 แห่งราชวงศ์มังราย (พ.ศ.1913-1954) ต่อมาพระยาติโลกราชโปรดให้ช่างขยายเจดีย์ให้สูงและกว้างกว่าเดิม แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2024 และอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐาน แต่เดิมวัดเจดีย์หลวงมีชื่อว่า “โชติการามวิหาร” หมายถึง พระอารามที่มีความรุ่งเรืองสว่างไสว ทั้งยังเป็นสถานที่บรรจุพระเกศาธาตุ และพระธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นอกจากนี้ “โชติการาม” ยังมีความหมายอีกนัยหนึ่ง คือ เมื่อถึงเวลาที่มีการจุดประทีบโคมไฟประดับบูชาองค์พระธาตุเจดีย์หลวง จะปรากฏแสงสีสว่างไสว มองเห็นองค์พระเจดีย์คล้ายเชิงเทียนที่มีเปลวไฟลุกโชติช่วง ดูแล้วมีความงดงามยิ่งนัก สามารถมองเห็นได้แต่ไกล



3. วัดพระสิงห์วรวิหาร อยู่ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง พญาผายูกษัตริย์องค์ที่ 5 ในราชวงศ์เม็งรายโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดนี้ขึ้น ในปีพ.ศ. 1888 พร้อมทั้งสร้างพระเจดีย์สูง 24 ศอกองค์หนึ่ง เพื่อใช้เป็นที่บรรจุอัฐิของพญาคำฟู อีกทั้งยังนับได้ว่าเป็นวัดที่สำคัญวัดหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นโบราณสถานสำหรับชาติ ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระสิงห์ (พระพุทธสิหิงค์) ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อยู่คู่เมืองเชียงใหม่และเมืองล้านนามาเป็นเวลานาน พระพุทธรูปเป็นศิลปะเชียงแสนรู้จักกันในชื่อ "เชียงแสนสิงห์หนึ่ง"



4. สวนสัตว์เชียงใหม่ เป็นสวนสัตว์ขนาดใหญ่ใครที่มาเที่ยวเชียงใหม่ต้องไม่พลาด สวนสัตว์แห่งนี้ได้รับการจัดสภาพอย่างดี บริเวณกว้างขวาง มีบรรยากาศร่มรื่น และมีสัตว์อยู่มากกว่า 2,000 ชนิด ทั้งที่มีอยู่ในเมืองไทยและนำเข้ามาจากต่างประเทศ สวนสัตว์เชียงใหม่ตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นดอยสุเทพ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนท่ามกลางกลิ่นอายของขุนเขา ป่าไม้ และธรรมชาติ และที่พลาดชมไปไม่ได้เลย คือ หมีแพนด้า ซึ่งเป็นทูตสันตวไมตรีจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ผู้คนต่างให้ความสนใจเดินทางมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก




5. ถนนคนเดินท่าแพ เป็นสถาน ที่เที่ยวเชียงใหม่ ชอปปิ้งสุดฮิตของเมืองเชียงใหม่ เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ภายในคูเมืองบริเวณถนนราชดำเนิน นับว่าเป็นถนนคนเดินที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ด้วยมนต์เสน่ห์ยามค่ำคืนทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต้องไม่พลาดที่จะเดินทางมาที่นี่ มีสินค้าที่นำออกมาวางขายอย่างหลากหลายมากมาย ทั้งสินค้าพื้นเมือง สินค้า OTOP สินค้าหัตกรรมพื้นบ้าน งานแฮนด์เมด งานศิลปะ สินค้าไอเดียเก๋ที่ราคาเป็นกันเอง




6. สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อส่งเสริมการปลูกพืชทดแทนฝิ่น ถ่ายทอดวิชาความรู้ทางด้านการเกษตรแผนใหม่อันจะเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรให้สูงขึ้น บริเวณโดยรอบพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้านที่มีราษฎรเป็นชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยงและเผ่าม้ง เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้ชาวบ้านได้มีอาชีพสร้างรายได้ ลดการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้และการทำไร่เลื่อนลอย นับเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าไปเยี่ยมชมได้






7. ดอยอินทนนท์ เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดของแดนสยาม 2,565 เมตร จุดสิ้นสุดของทางหลวงหมายเลข 1009 มีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดปี เป็นที่ตั้งสถานีเรดาร์ของกองทัพอากาศไทยและเป็นที่ประดิษฐานสถูปเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าเมืองเชียงใหม่องค์สุดท้าย ดอยอินทนนท์ นับว่าเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย พาดผ่านจากประเทศเนปาล ภูฐาน พม่า และมาสิ้นสุดที่นี่ บรรยากาศโดยรอบอุดมไปด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นป่าดงดิบ ป่าสน ป่าเบญจพรรณ อีกทั้งยังมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี เชื่อได้ว่าใครที่ได้มาที่นี่จะต้องติดใจจนไม่อยากกลับ





8. พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ เป็นพระตำหนักประทับแปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2505 ตั้งอยู่บนดอยบวกห้า สามารถเดินชมโดยรอบตำหนักและบริเวณซึ่งมีแปลงกุหลาบ สวนเฟิร์น และไม้นานาพรรณได้ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ มีลักษณะเป็นแผนผังแบบเรือนไทยภาคกลางที่เรียกว่า “เรือนหมู่” มีรูปแบบสถาปัตยกรรมเป็นไทยประเพณีประยุกต์ ก่ออิฐถือปูน ยกพื้นสูงหลังคาทรงไทย มีความงดงามเป็นอย่างมาก เหมาะที่จะเดินทางมาพักผ่อน พร้อมกับเก็บภาพประทับใจสวยๆ คู่กับพระตำหนักและบรรยากาศโดยรอบ



9. บ้านม้งดอยปุย เป็นอีกสถาน ที่เที่ยวเชียงใหม่ หนึ่งที่เราประทับใจ เป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง (แม้ว) ดอยปุย บริเวณหมู่บ้านจำหน่ายของที่ระลึกจำนวนมากซึ่งมีทั้งที่ผลิตภายในหมู่บ้าน และนำจากที่อื่นมาวางจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยว การได้เดินทางมาที่นี่นับได้ว่าเป็นการเรียนรู้วิถีชีวิตชาวม้งอย่างแท้จริง นอกจากของที่ระลึกที่จะมีจำหน่ายให้เราได้เลือกซื้อกลับไปเป็นของที่ระลึกแล้ว เรายังจะได้แต่งกายแบบชาวม้ง โดยสามารถถ่ายรูปภายในหมู่บ้านที่มีมุมสวยๆ อยู่มากมาย ใครยังไม่เคยมา ต้องลองมาให้ได้สักครั้ง





10. ถนนนิมมานเหมินทร์ ตั้งอยู่ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เป็นถนนสั้นๆ ความยาวไม่ถึงกิโลฯ แต่ถือว่าเป็นทำเลทองของการทำธุรกิจ ที่เที่ยวเชียงใหม่ แห่งนี้เป็นแหล่งรวบรวมความทันสมัย หากจะเปรียบแล้วถนนนิมมานเหมินทร์ก็คงคล้ายกับถนนสุขุมวิทของกรุงเทพฯ นั่นเอง ถือได้ว่าเป็นถนนที่ชิคที่สุดของเชียงใหม่ โดยตลอดเส้นทางมีร้านรวงมากมายให้เราได้เดินเข้าไปสัมผัสความงดงามจากไอเดียการตกแต่งร้านที่ไม่ซ้ำกัน มีทั้งสินค้าและบริการ รวมถึงร้านอาหาร เครื่องดื่มในบรรยากาศดีๆ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ยังคงเอกลักษณ์ของผู้คนและศิลปะล้านนาเอาไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม


 ขอขอบคุณเว็บ travel.sanook.com




วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

5 สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต
 



           1. หาดกะตะ-หาดกะรน
อยู่ห่างจากตัวเมือง 17 กิโลเมตร ไปตามเส้นทางถนนเจ้าฟ้า ถึงห้าแยกอ่าวฉลองเลี้ยวขวา เข้าถนนปฏัก หาดกะตะ แบ่งออกเป็น 2 หาด คือ หาดกะตะใหญ่ และ หาดกะตะน้อย เป็นหาดที่เหมาะสำหรับการเล่นน้ำ และใช้เป็นที่ฝึกดำน้ำเนื่องจากมีแนวปะการังติดต่อกันไปจนถึงเกาะปู ซึ่งอยู่ด้านหน้าหาดกะตะ ปัจจุบันหาดกะตะเป็นหาดหนึ่งที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น สถานที่พัก บริษัทนำเที่ยว ร้านค้า และแหล่งบันเทิงต่าง ๆ ไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยว เช่นเดียวกับ หาดกะรน ที่อยู่ถัดจากหาดกะตะไปทางด้านเหนือ ไปตามถนนซึ่งแยกจากหาดกะตะ 3 กิโลเมตร เป็นหาดทรายขาว ละเอียด ทอดตัวในแนวยาว ไปจนสุดหาด และเป็นหาดหนึ่งที่มีสถานที่พัก บริษัทนำเที่ยว ร้านค้าจำนวนมาก สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง


 


2. หาดกมลา
ถือเป็นชายหาดที่มีความสวยงามอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ตั้งอยู่เหนือหาดป่าตอง ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ  26 กิโลเมตร ความยาวของหาดทรายยาวประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นหาดที่สงบเงียบ มีสถานที่พักบริการนักท่องเที่ยวมากมาย ปัจจุบันได้มีการพัฒนาจนกลายเป็นหาดที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ด้วยการสร้างแหล่งช้อปปิ้ง, สปา, มินิบาร์ รวมทั้งการแสดงโชว์แสง สี เสียง อีกทั้งยังเป็นสถานที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมงมุสลิม จึงเป็นสถานที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชอบเดินทางมาพักผ่อนเป็นครอบครัวและเพื่อนกลุ่มใหญ่ นอกจากนี้ ในบริเวณหาดยังมีอนุสรณ์สถานสึนามิ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อสะท้อนถึงภัยพิบัติคลื่นยักษ์ ชื่อว่า จิตจักรวาล อีกด้วย
 เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.
ที่อยู่ : หาดกมลา ตำบลกมลา อำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต



 

          3. ภูเก็ตแฟนตาซี
เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นอาณาจักรแห่งความบันเทิงในระดับโลกเลยก็ว่าได้ สำหรับ ภูเก็ตแฟนตาซี ศูนย์การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยผสมผสานเทคนิคพิเศษในระดับโลก ที่ได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ถึงความอลังการของโชว์ ซึ่งนอกจากโชว์แล้วยังมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกและหัตถกรรมไทยต่าง ๆ ห้องเกม โดยแต่ละอาคารได้รับการออกแบบเป็นอาคารทรงไทยประยุกต์ลักษณะต่าง ๆ มีการดึงเอาจุดเด่นของแต่ละภาคมาใช้ และตกแต่งโดยใช้แสงสีต่าง ๆ ดูตระการตา
ราคา : อัตราค่าเข้าชมการแสดงรวมอาหารเย็น ผู้ใหญ่ 1,600 บาท เด็ก 1,200 บาท ชมการแสดงอย่างเดียว ผู้ใหญ่ 1,100 บาท เด็ก 800 บาท
เปิดบริการทุกวัน : เวลา 17.30-23.30 น.(การแสดงเริ่มเวลา 21.00 น.)
ที่อยู่ : 99 หมู่ 3 ตำบลกมลา อำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต
โทรศัพท์ : 076-385-000-19 หรือฝ่ายรับจองบัตรโทรศัพท์ 076-385-111
 เว็บไซต์ : www.phuket-fantasea.com




 
4. เกาะมะพร้าว
เกาะมะพร้าว อยู่ห่างจากภูเก็ตทางทิศตะวันออกประมาณ 2 กิโลเมตร แต่บรรยากาศของทั้งสองเกาะนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยภูเก็ตนั้นขึ้นชื่อในเรื่องความเจริญ ครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และมีบรรยากาศคึกคัก แต่สำหรับเกาะมะพร้าวกลับเป็นเกาะที่มีแต่ธรรมชาติและบรรยากาศอันเงียบสงบ (บริเวณท่าเรือแหลมหินของเกาะภูเก็ต มีบริการเรือหางยาวส่งนักท่องเที่ยวสู่เกาะมะพร้าว)
เกาะมะพร้าว เป็นหนึ่งในเกาะบริวารของจังหวัดภูเก็ต หากเรายืนอยู่ที่ท่าเรือแหลมหิน มองออกไปเบื้องหน้าก็จะพบวิวเกาะมะพร้าวตั้งอยู่แค่เอื้อม โดยมีพื้นที่อยู่ประมาณ 2,620 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นสวนมะพร้าว จึงเป็นที่มาของชื่อเกาะมะพร้าว บนเกาะมีท่าเรืออยู่ 2 แห่ง ท่าเรือแรก คือ ท่าเรือหน้าหาด ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของเกาะเป็นท่าเรือคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวจากภูเก็ต ส่วนอีกแห่ง คือ ท่าเรือหน้าบ้าน ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ เป็นท่าเรือขนส่งสินค้าของชาวประมง
สำหรับชายหาดบนเกาะมะพร้าวมีที่เที่ยวชม 3 แห่ง ได้แก่ ชายหาดบริเวณท่าเรือหน้าหาด ชายหาดบริเวณท่าเรือหน้าบ้าน และชายหาดทางด้านทิศตะวันออกของเกาะ โดยชายหาดทั้งสองแห่งที่อยู่บริเวณท่าเรือ ส่วนใหญ่เป็นหาดเลนจึงไม่นิยมมากนัก นักท่องเที่ยวจะนิยมไปเล่นน้ำที่ชายหาดด้านทิศตะวันออกเสียมากกว่า ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเกาะมะพร้าวนอกจากจะสามารถเที่ยวชมและเล่นน้ำทะเลภายในเกาะแล้ว ยังมีเกาะบริเวณใกล้เคียงที่น่าสนใจอีกด้วย เช่น เกาะรังใหญ่ ที่ตั้งอยู่ใกล้เกาะมะพร้าว เกาะนี้นอกจากจะเด่นด้วยชายหาดขาวสะอาดน่าเล่นน้ำทะเลแล้ว ยังมีฟาร์มหอยมุกให้ชมด้วย
ช่วงเวลาการท่องเที่ยว : พฤศจิกายน-เมษายน
 




 5. หลาดปล่อยของ
 หลาดปล่อยของ คือ ตลาดนัดสุดแนวของชาวจังหวัดภูเก็ต โดยคำว่า หลาด หมายถึง ตลาด ที่เป็นเหมือนตัวกลางระหว่างผู้บริโภคและผู้ค้า ส่วนคำว่า ปล่อยของ คือ การปลดปล่อยความคิดแปลกใหม่ที่ออกมาจากตัวตนของตัวเอง ดังนั้น หลาดปล่อยของ หมายถึง แหล่งรวมสินค้าแปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร มีทั้งสินค้าไอเดีย งานแฮนด์เมด, งานศิลปะ, งานแฟชั่นทั้งแบบเก่าและใหม่, การแสดง, อาหารนานาชนิด รวมทั้งไลฟ์สไตล์อื่น ๆ นอกจากนี้ หลาดปล่อยของเป็นสถานที่พักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศกลางแจ้งสบาย ๆ ใน Limelight Avenue ใจกลางเมืองภูเก็ต ทั้งช้อปปิ้ง ดื่มกิน ฟังเพลง ชมการแสดงจากนักร้อง นักแสดงมืออาชีพและสมัครเล่น ที่มาช่วยกันสร้างสีสันสถานที่แห่งนี้ ให้เป็นตลาดทางเลือก Phuket Indy Market หนึ่งเดียวของจังหวัดภูเก็ต
ที่อยู่ : ลานเพลิน Lime Light ถนนดีบุกตัดใหม่ หลัง ททท. และลานมังกร ติดร้านอาหารเลมอนกราสและโซฟาผับ จังหวัดภูเก็ต
เวลาเปิด-ปิด : วันพฤหัสบดี-วันศุกร์ เวลา 16.00-22.30 น.
เบอร์โทรศัพท์ : 089-474-5253

เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก หลาด ปล่อยของ >


ขอบคุณ  travel.kapook.com

วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559


5 สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต

 







1. วัดไชยธาราม (วัดฉลอง)
วัดไชยธาราม หรือวัดฉลอง เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองชาวภูเก็ต ซึ่งชาวภูเก็ตให้ความเคารพนับถือเป็นเวลานับร้อยปี อีกทั้งนักท่องเที่ยวที่มาภูเก็ตจะต้องมาเคารพสักการะ หลวงพ่อแช่ม แห่งวัดฉลอง โดยหลวงพ่อแช่มเป็นผู้นำชาวภูเก็ตต่อสู้กับพวกจีน (อังยี้) ทำเหมืองที่ทำการขบถจะยึดเมืองภูเก็ตเมื่อปี พ.ศ.2415 นอกจากนี้ ท่านมีความเชี่ยวชาญในเรื่องการรักษาโรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการ ต่อกระดูก รักษาเส้น ฯลฯ ส่วนภายในวัดยังมีอุโบสถ์หลังเล็ก ภายในจะเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นของพระประธาน และมีรูปปั้นอีก 2 ตัวขนาบข้าง คือ ท้าวนนทรี เป็นรูปปั้นยักษ์ยืนอยู่ทางเบื้องซ้าย ส่วนทางด้านขวามีรูปปั้นตาแก่นั่งสูบบุหรี่ เรียกว่า ตาขี้เหล็ก เล่ากันว่าตอนที่สร้างโบสถ์เสร็จมีปูนเหลืออยู่จำนวนหนึ่ง ช่างนึกสนุกจึงนำปูนมาปั้นเป็นรูปตาแก่ และประชาชนนิยมบนตาขี้เหล็กด้วยหมากพลูและบุหรี่มาจนทุกวันนี้
      สำหรับการเดินทางไปที่วัด สามารถออกจากตัวเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข 4021 ผ่านสามแยกบริเวณสนามกีฬาสุระกุลเลี้ยวซ้ายไปทางห้าแยกฉลอง วัดฉลองจะอยู่ทางซ้ายมือก่อนถึงห้าแยกฉลองประมาณ 4 กิโลเมตร
-                    เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.
-                   ที่อยู่ : หมู่ 6 ตำบลฉลอง อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต




2.ตึกโบราณสถาปัตยกรรมแบบชิโน-โปรตุกีส





สถาปัตยกรรมในตัวเมืองภูเก็ตส่วนใหญ่มักเป็นตึกสมัยเก่า มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบชิโน-โปรตุกีส ที่สร้างขึ้นเกือบร้อยปีมาแล้ว เมื่อครั้งกิจการเหมืองแร่เริ่มเจริญใหม่ ๆ อาคารส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นโดยนักธุรกิจชาวจีน ที่มีความร่ำรวยจากการเข้ามาทำธุรกิจเหมืองแร่ดีบุกในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งปัจจุบันยังมีตึกที่ได้รับอิทธิพลทางด้านสถาปัตยกรรมแบบจีนมาผสมผสาน เรียกว่าสถาปัตยกรรมแบบ ชิโน-โปรตุกีส (Sino-Portuguese) เช่น อาคารปัจจุบันที่ทำการศาลากลางจังหวัด, ศาลจังหวัด, ธนาคารนครหลวงไทย เป็นต้น โดยลักษณะของตึกที่ว่าจะเป็นอาคารจะมีส่วนลึกมากกว่าส่วนกว้างและไม่สูงนัก ซึ่งนักท่องเที่ยวโดยส่วนใหญ่จะมาเดินชมตึก ชมทัศนียภาพของอาคาร รวมทั้งถ่ายภาพเก็บความงามเหล่านี้ไว้เสมอ
-                   เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 06.00-20.00 น.
-                   ที่อยู่ : ถนนถลาง ถนนดีบุก อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต







 
 3. แหลมพรหมเทพ
      ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตภายในจังหวัดภูเก็ต เพราะเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย โดยเป็นแหลมที่อยู่ตอนใต้สุดของเกาะภูเก็ต ชาวบ้านเรียกว่า แหลมเจ้า ซึ่งจากริมหน้าผามีแนวต้นตาลลาดลงสู่ปลายแหลมที่เป็นโขดหิน สามารถเดินไปจนถึงปลายแหลมได้ มองเห็นน้ำทะเลสีเขียวมรกต และสามารถเห็นเกาะแก้วอยู่ด้านหน้าแหลม ทางขวาจะเห็นแนวหาดทรายของหาดในหาน
      นอกจากนั้นยังมี ประภาคารกาญจนาภิเษก แหลมพรหมเทพ สร้างขึ้นในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี มีขนาดความกว้างที่ฐาน 9 เมตร สูง 50 ฟุต และแสงไฟจากโคมไฟจะมองเห็นไกลถึง 39 กิโลเมตร ภายในประภาคารมีการแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับการสร้างประภาคาร การรักษาเวลามาตรฐาน การคำนวณ และแสดงเวลาดวงอาทิตย์ขึ้นและตก อีกทั้งจากบนยอดของประภาคารยังเป็นจุดชมวิวได้ด้วย
-                   เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 06.00-19.00 น.
-                   โทรศัพท์ : 0 76211 036, 0 7621 2213 (ททท.สำนักงานภูเก็ต)


 











4. วัดพระทอง (พระผุด)
     วัดพระทอง หรือวัดพระผุด ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 21 กิโลเมตร วัดนี้มีพระพุทธรูปผุดขึ้นจากพื้นดินเพียงครึ่งองค์ เมื่อคราวศึกพระเจ้าปะดุงยกพลมาตีเมืองถลาง (พ.ศ. 2328) ทหารพม่าพยายามขุดพระผุดเพื่อนำกลับไปพม่า แต่ขุดลงไปคราวใดก็มีฝูงแตนไล่ต่อยจนต้องละความพยายาม ต่อมาชาวบ้านได้นำทองหุ้มพระพุทธรูปที่ผุดจากพื้นดินเพียงครึ่งองค์ดังปรากฏอยู่จนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังเป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑสถานวัดพระทอง เป็นที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุข้าวของเครื่องใช้ของชาวภูเก็ต เช่น จังซุ่ย เสื้อกันฝนชาวเหมืองแร่ดีบุก รองเท้าตีนตุกของสตรีเชื้อสายจีนที่ต้องมัดเท้าให้เล็กตามค่านิยมของสังคมสมัยนั้นอีกด้วย
-                   เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 07.00-17.00 น.
-                   ที่อยู่ : หมู่ 7 ตำบลเทพกระษัตรี อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต




5. หาดป่าตอง
หาดป่าตอง อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 15 กิโลเมตร ตามเส้นทางถนนวิชิตสงคราม หรือ ทางหลวงหมายเลข 4020 ไป 9 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 4029 ไปอีก 6 กิโลเมตร นับเป็นอ่าวที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เพราะเป็นอ่าวที่มีความโค้งมาก หาดทรายงดงามเป็นแนวยาว 9 กิโลเมตร น้ำทะเลใสสะอาด เหมาะแก่การเล่นน้ำ อีกทั้งบริเวณชายหาดยังมีกิจกรรมทางน้ำให้ได้เล่นกันมันส์ ๆ ไม่ว่าจะเป็น ขับเจ็ทสกี, สปีดโบ๊ท รวมทั้งกิจกรรมอื่น ๆ อย่างครบครัน และบริเวณหาดมีที่พัก บริษัทนำเที่ยว ศูนย์การค้า และแหล่งบันเทิงบริการนักท่องเที่ยวอย่างครบครัน
-                   เวลาเปิด-ปิด : เปิดทำการทุกวัน เวลา 06.00-20.00 น.
f                                  

                         ขอขอบคุณเว็บไซต์  http://travel.kapook.com